แฟ้มสะสมงานรายวิชาการอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยที่มีความต้องการเด็กพิเศษ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556
วันอังคารที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2557
วันพุธที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2557
การเข้าเรียนครั้งที่ 12
วันอังคารที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2557
เวลาเรียน 11.30น.-14.00น.
บรรยากาศในห้องเรียน
ในวันเราเรียนตามปกติเราเรียนทฤษฎีกันเเต่ก็เรียนอย่างสนุกสนานจนไม่อยากให้จบการเรียน การสอนในครั้งนี้เลย เพื่อนหรือแม้กระทั่งบางครั้งเราก็ยังเสียงดังเหมือนกัน อาจารยืมีการยกตัวอย่างในบางกรณีให้เราได้ฟัง เราก็รู้สึกสนุกสนานเป็นยอ่างมาก ตื่นเต้นที่ได้รับประสบการณ์ใหม่ๆที่อาจารย์ถ่ายทอดให้
การเรียน การสอน
- อาจารย์ให้ดูเพาเวอร์ในเรื่อง พัฒนาการของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
- ในคาบเรียนได้มีการสนทนาโต้ตอบกับอาจารย์ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราเข้าใจมากยิ่งขึ้น
ความรู้ที่ได้รับ
พัฒนาการ หมายถึง
พัฒนาการ หมายถึง
- การเปลี่ยนแปลงในด้านการทำหน้าที่เเละวุฒิภาวะของอวัยวะต่างๆรวมทั้งตัวบุคคล
- ทำให้สามารถทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ หมายถึง
- เด็กที่มีพัฒนาการล่าช้ากว่าเด็กปกติในวัยเดียวกัน
- เด็กที่มีพัฒนาการล่าช้าเด็กปกติในวัยเดียวกัน
- พัฒนาการล่าช้าอาจพบเพียงด้านใด ด้านหนึ่งหลายด้านหรือทุกด้าน
- พัฒนาการล่าช้าในด้านหนึ่งส่งผลให้พัฒนาการในด้านอื่นล่าช้า
ปัจจัยที่มีความต่อพัฒนาการเด็ก
- ปัจจัยทางด้านชีวภาพ
- ปัจจัยด้านสภาพเเวดล้อมก่อนคลอด
- ปัจจัยด้านกระบวนการคลอด
- ปัจจัยด้านสภาพเเวดล้อมหลังคลอด
สาเหตุ
สาเหตุ
- โรคพันธุกรรม เด็กจะมีพัฒนาการล่าช้ามาตั้งเเต่เกิดหรือสังเกตได้ชั่วระยะไม่น่นหลังเกิด มักมีลักษณะผิดปกติเเต่คำ
- โรคของระบบประสาท เด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการส่วนใหญ่มักมีอาการหรืออาการเเสดงทางระบบประสาทร่วมด้วย ที่พบบ่อยคืออาการชัก
- การติดเชื้อ การติดเชื้อตั้งเเต่อยู่ในครรภ์ น้ำหนักตัวเเรกเกิดน้อย ศีรษะเล็กกว่าปกติอาจมีม้ามโต การได้ยินบกพร่อง
- ความผิดปกติเกี่ยวกับเมตาบอลิซึม ถ้าไม่รีบรักษาก็จะโง่แบบถาวร
- ภาวะเเทรกซ้อนระยะเเรกเกิด การเกิดก่อนกำหนด น้ำหนักตัวเเรกเกิดน้อย เเละภาวะขาดออกซิเจน
- สารเคมี
ตะกั่ว อยู่ในตัวเชื่อม ของเล่นที่มีการผสมสีด้วยตะกั่ว
1. ตะกั่วเป็นสารที่มีผล กระทบต่อเด็ก เเละมีการศึกษามากที่สุด
2. มีอาการซึมเศร้า เคลื่อนไหว ผิวดำหมงคล้ำเป็นจุดๆ
3. ภาวะตับเป็นพิษ
4. ระดับสติปัญญาต่ำ
เเอลกอฮอล์จากเเม่
1. น้ำเเรกเกิดน้อย
2. มีอัตรการเพิ่มน้ำหนักหลังเกิดน้อยศีรษะเล็ก
3. พัฒนาการทางสติปัญญามีความบกพร่อง
4. บกพร่องทางพฤติกรรมเเละอารมณ์
โรค Fetal - alcohol
- ช่องตาสั้น
- ร่องริมฝีปากบนเรียบ
- หนังคลุมหัวตามาก
- จมูกแบน
- ปลายจมูกเชิดขึ้น
นิโคติน
- น้ำหนักเเรกเเกิดน้อย ตอนเกิดขาดสารอาหารในระยะตั้งครรภ์
- เพิ่มอัตราการตายในวัยทารก
- สติปัญญาบกพร่อง
- สมาธิสั้นพฤติกรรมก้าวร้าวมีปัญหาด้านการเข้าสังคม
- การเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสมรวมทั้งขาดสารอาหาร (มีผลกระทบเเต่ไม่รุนเเรง) มีพัฒนาการล่าช้าซึ่งอาจจะพบมากกว่า 1 ด้าน และ ปฏิกิริยาสะท้อน (primitive reflex) ไม่หายไปแม้จะถึงช่วงอายุที่ควรจะหายไป
องค์ความรู้ใหม่
เด็กที่มีความบกพร่องไม่ใช่เกิดเเค่ตัวของพ่อ แม่เท่านั้นเเต่สิ่งเเวดล้อมที่อยู่รอบข้าง ก็ถือว่าเป็นส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เช่น การที่อยู่ในสภาพเเวดล้อมที่มีคนสูบบุหรี่
การนำไปประยุกต์ใช้ |
วันศุกร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2557
การเข้าเรียนครั้งที่ 11
วันอังคารที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2557
เวลาเรียน 11.30น.-14.00น.
ความรู้ที่ได้ศึกษาเพิ่มเติม
วันอังคารที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2557
การเข้าเรียนครั้งที่ 10
วันอังคารที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2557
เวลาเรียน 11.30น.-14.00น.
Children with Learning Disabilities L.D
สมาธิสั้น (อังกฤษ: Attention Deficit Hyperactivity Disorders (ADHD)) เป็นความผิดปกติด้านพฤติกรรม เกิดจากการทำงานที่ไม่เหมาะสมของสมอง โดยเฉพาะสมองส่วนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสมาธิ ทำให้เกิดการทำงานที่ไม่สัมพันธ์กันกับระบบสั่งงานอื่นๆ ผู้ที่มีภาวะสมาธิสั้นคือผู้ที่มีความบกพร่องในเรื่องสมาธิ และการควบคุมการกระทำของตนเองในการเคลื่อนไหวต่างๆ ซึ่งอาการนี้อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์
สาเหตุ
แท้จริงของภาวะสมาธิสั้นนั้นยังไม่สามารถสรุปได้ชัดเจน แต่สันนิษฐานว่าอาจเป็นผลมาจากความไม่สมดุลของสารเคมีในสมอง อีกสาเหตุหนึ่งที่เป็นไปได้ก็คือพันธุกรรมที่มีผลต่อสมอง แม้ว่าจะยังไม่มีรายละเอียดชัดเจนว่าภาวะสมาธิสั้นมีการถ่ายทอดทางพันธุกรรมอย่างไรก็ตาม
ลักษณะอาการ ในเด็กเล็กวัย 3 - 5 ขวบไม่อยู่นิ่ง เคลื่อนไหวตลอดเวลา แม้ขณะรับประ
ทานอาหาร เช่น นั่งรับประทานอาหารได้เพียงคำเดียวก็ลุกขึ้นวิ่ง มักพูดแทรกและขัดจังหวะคนอื่น เป็นคนอดทนรอไม่ได้ เช่นเวลาเข้าแถว เวลาเล่นของเล่น หรือเกมที่ต้องผลัดกันเล่น เล่นของเล่นอย่างใดอย่างหนึ่งได้ไม่นาน ไม่สามารถทำตามคำสั่งง่าย ๆ ได้ ทั้งที่มีความเข้าใจ และสื่อสารได้ปกติ เล่นเสียงดังมากกว่าเด็กคนอื่นไม่ชอบแบ่งปัน ชอบแย่งของจากคนอื่น โดยไม่เข้าใจความรู้สึกของคนที่ถูกแย่ง ดูเหมือนกับมีพลังงานมากมาย ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยลักษณะอาการ ในเด็กอายุ 6 ปี ขึ้นไปจะพบอาการได้ชัดกว่าในเด็กเล็ก มีอาการสำคัญ 3 กลุ่มอาการดังนี้1. อาการไม่มีสมาธิ (Inattention)
บรรยากาศในห้องเรียน
ในวันนี้ที่ห้องเรียนของเรา จะมีการนำเสนอประเภทของเด็กพิเศษประเภทต่างๆ อาจารย์บอกว่าคงไม่สามาถรนำเสนอได้เพราะว่าคอมพิวเตอร์เเละโปรเจ็คเตอร์มีปัญหาอาจารย์เลยให้รอเพื่อที่จะได้ไปเรียนอีกห้องอื่น เเต่ระหว่างรออาจารย์ไปจับสายทำให้ทุกอย่างใช้ได้ตามปกติ
วันนี้ก่อนเเละระหว่างการนำเสนองานนั้นมีความตื่นเต้นพอสมควรไม่รู้เป็นเพราะอะไรทั้งๆที่เราก็เรียนมาจนถึงปี3เเล้ว
เพื่อนๆตั้งใจฟังการนำเสนอของพวกเราเป็นอย่างดี เเละระหว่างการนำเสนอมีทั้งพูดผิด พูดถูกทำให้เกิดเสียงหัวเราะเป็นสีสันไม่น่าเบือ่ในการนำเสนอด้วย
วันนี้ก่อนเเละระหว่างการนำเสนองานนั้นมีความตื่นเต้นพอสมควรไม่รู้เป็นเพราะอะไรทั้งๆที่เราก็เรียนมาจนถึงปี3เเล้ว
เพื่อนๆตั้งใจฟังการนำเสนอของพวกเราเป็นอย่างดี เเละระหว่างการนำเสนอมีทั้งพูดผิด พูดถูกทำให้เกิดเสียงหัวเราะเป็นสีสันไม่น่าเบือ่ในการนำเสนอด้วย
การเรียน การสอน
- นำเสนอประเภทของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
กลุ่มที่1 Cerebral Palsy C.P
กลุ่มที่2 Children with Learning Disabilities L.D.
กลุ่มที่3 Children with Attention Deficit and Hyperactivity Disordersซึ่งพึงนำเสนอได้เพียง 3 กลุ่มเท่านั้น ซึ่งทั้งหมดมี 5 กลุ่ม
ความรู้ที่ได้รับ
ขอนำเสนอในรูปแบบบรรยายเเละผังความรู้ด้วยโปรเเกรมMind Mapper 2008
Cerebral Palsy C.P
โรค
Cerebral Palsy (ซีรีบรัล
พลัลซี
หรือ ซีพี) หรือ โรคสมองพิการ
เกิดจากสมองส่วนที่ใช้ควบคุมกล้ามเนื้อส่วนใดส่วนหนึ่งบกพร่อง หรือสูญเสียไป ในทางการแพทย์
จัดเด็กพิการ CP เป็นภาวะพิการทางสมองชนิดหนึ่ง
ซึ่งจะทำให้ผู้เป็น โรค Cerebral Palsy มีปัญหาในการเคลื่อนไหว
แบ่งสาเหตุการเกิดได้
3
ระยะ
คือ
1. ระหว่างตั้งครรภ์
2. ระยะระหว่าคลอด
3. ระยะหลังคลอด
อาการ
พ่อแม่พบความผิดปกติก่อนอายุ
1
ปี
สังเกตได้จากเด็กมีท่านอนผิดปกติจากกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือเกร็ง เด็กอายุมากกว่า 5 เดือน
กำมือมากกว่าแบมือ หรือในเด็กที่มีอายุมากกว่า 2 ปี
ยังไม่สามารถเดินได้
เป็นต้น จำเป็นต้องพาเด็กเข้ารับการตรวจรักษาทันทีเมื่อสังเกตพบความผิดปกติ เเบ่งอาการเป็น 3 กลุ่ม
1.กลุ่มแข็งเกร็ง(สปาสติก
: spastic)
เป็นชนิดที่พบมากที่สุด
กล้ามเนื้อจะมีความตึงมากผิดปกติ
ทำให้มีอาการเกร็งร่วมกับมีลักษณะท่าทางที่ผิดปกติของร่างกายให้เห็นได้หลายแบบ
2.กลุ่มที่มีการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเอง(อะธีตอยด์
: athetoid
; อะแทกเซีย
: ataxia)
3.กลุ่มอาการผสมกัน(mixed
type)
พบมากโดยเฉพาะกลุ่มแข็งเกร็ง
เป็นปัญหาและความผิดปกติที่เกิดร่วมกับเด็กสมองพิการ
การดูแล/รักษา
การรักษาทางกายภาพบำบัด
การรักษาทางกิจกรรมบำบัด
การรักษาด้วยยา
การรักษาด้วยการผ่าตัด
การใช้เครื่องมือและอุปกรณ์เสริมร่วมกับการรักษา
สาเหตุ
แท้จริงของภาวะสมาธิสั้นนั้นยังไม่สามารถสรุปได้ชัดเจน แต่สันนิษฐานว่าอาจเป็นผลมาจากความไม่สมดุลของสารเคมีในสมอง อีกสาเหตุหนึ่งที่เป็นไปได้ก็คือพันธุกรรมที่มีผลต่อสมอง แม้ว่าจะยังไม่มีรายละเอียดชัดเจนว่าภาวะสมาธิสั้นมีการถ่ายทอดทางพันธุกรรมอย่างไรก็ตาม
ลักษณะอาการ ในเด็กเล็กวัย 3 - 5 ขวบไม่อยู่นิ่ง เคลื่อนไหวตลอดเวลา แม้ขณะรับประ
ทานอาหาร เช่น นั่งรับประทานอาหารได้เพียงคำเดียวก็ลุกขึ้นวิ่ง มักพูดแทรกและขัดจังหวะคนอื่น เป็นคนอดทนรอไม่ได้ เช่นเวลาเข้าแถว เวลาเล่นของเล่น หรือเกมที่ต้องผลัดกันเล่น เล่นของเล่นอย่างใดอย่างหนึ่งได้ไม่นาน ไม่สามารถทำตามคำสั่งง่าย ๆ ได้ ทั้งที่มีความเข้าใจ และสื่อสารได้ปกติ เล่นเสียงดังมากกว่าเด็กคนอื่นไม่ชอบแบ่งปัน ชอบแย่งของจากคนอื่น โดยไม่เข้าใจความรู้สึกของคนที่ถูกแย่ง ดูเหมือนกับมีพลังงานมากมาย ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยลักษณะอาการ ในเด็กอายุ 6 ปี ขึ้นไปจะพบอาการได้ชัดกว่าในเด็กเล็ก มีอาการสำคัญ 3 กลุ่มอาการดังนี้1. อาการไม่มีสมาธิ (Inattention)
- มีความสะเพร่า เลิ่นเล่อ ผิดพลาดสิ่งเดิม ๆ ซ้ำ ๆ อยู่เสมอ
- เหม่อลอย บางครั้งอาจนั่งนิ่งๆ เป็นระยะเวลานานๆ จึงมักทำงานไม่เสร็จ หรือทำงานช้า แต่บางครั้งหากเป็นสิ่งที่สนใจมาก ๆ เช่นวิดีโอเกมหรือรายการโทรทัศน์ ก็อาจตั้งใจดูเป็นเวลาหลายชั่วโมงต่อเนื่องได้
- ไม่ฟังเวลาผู้ใหญ่พูดด้วยหรือสอน มักจำไม่ได้ ลืมง่ายมากกว่าเด็กทั่วไป
- มักทำของหาย เช่น ของเล่น การบ้าน ดินสอ หนังสือ ยางลบ ฯลฯ
- วอกแวกได้ง่ายมากแม้แต่สิ่งเร้าเล็กๆ น้อยที่ผ่านทางตาหรือหูก็สามารถทำให้เสียสมาธิได้
- ชอบเดินไปมาในห้อง หรือออกนอกห้อง ถ้าไม่เดินก็จะนั่งไม่อยู่นิ่ง อยู่ไม่เป็นสุข ลุกลี้ลุกลน หยิบโน่น ฉวยนี่ เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
- ซนมากกว่าเด็กทั่วๆไป ดูเหมือนมีพลังงานอยู่ตลอดเวลา ชอบวิ่งเล่นหรือปีนป่ายในสถานที่ที่ไม่สมควร ไม่หวาดกลัวต่ออันตรายที่จะเกิดขึ้น
- มักลืมตัวเล่นเสียงดัง
- ไม่มีระเบียบในการทำสิ่งต่างๆ มักวุ่นวาย ยุ่งเหยิงตลอดเวลา
- มักพูดมาก พูดแทรก
- รอคอยไม่เป็น มักแสดงออกในลักษณะรีบเร่ง
- หุนหันพลันแล่นทำสิ่งต่างๆ อย่างรวดเร็วโดยไม่ยั้งคิด
เด็กบางคนอาจมีอาการให้เห็นครบ3 กลุ่ม แต่บางคนอาจมีลักษณะใดลักษณะหนึ่งก็ได้ เช่นไม่ซนมาก ทนรอได้ไม่มีสมาธิ เหม่ลอย วอกแวกง่าย ซึ่งมีผลต่อการเรียนทั้งสิ้น
เด็กบางคนอาจแสดงอาการตั้งแต่วัยก่อนอนุบาลหรือวัยอนุบาล แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเห็นพฤติกรรมได้เด่นชัดเมื่ออยู่ชั้นประถมขึ้นไป ทั้งนี้หากมีพฤติกรรมดังกล่าวซึ่งมีโอกาสได้ว่าเด็กจะมีภาวะสมาธิสั้น ก็ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญต่อไป
องค์ความรู้ใหม่
| |
การนำไปประยุกต์ใช้
|
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)