วันอังคารที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2557

การเข้าเรียนครั้งที่ 10

วันอังคารที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2557
เวลาเรียน 11.30น.-14.00น.


บรรยากาศในห้องเรียน 

                                      ในวันนี้ที่ห้องเรียนของเรา จะมีการนำเสนอประเภทของเด็กพิเศษประเภทต่างๆ อาจารย์บอกว่าคงไม่สามาถรนำเสนอได้เพราะว่าคอมพิวเตอร์เเละโปรเจ็คเตอร์มีปัญหาอาจารย์เลยให้รอเพื่อที่จะได้ไปเรียนอีกห้องอื่น เเต่ระหว่างรออาจารย์ไปจับสายทำให้ทุกอย่างใช้ได้ตามปกติ
                                      วันนี้ก่อนเเละระหว่างการนำเสนองานนั้นมีความตื่นเต้นพอสมควรไม่รู้เป็นเพราะอะไรทั้งๆที่เราก็เรียนมาจนถึงปี3เเล้ว
                                      เพื่อนๆตั้งใจฟังการนำเสนอของพวกเราเป็นอย่างดี เเละระหว่างการนำเสนอมีทั้งพูดผิด พูดถูกทำให้เกิดเสียงหัวเราะเป็นสีสันไม่น่าเบือ่ในการนำเสนอด้วย

การเรียน การสอ

                             - นำเสนอประเภทของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ   

                                                                 กลุ่มที่1    Cerebral Palsy C.P 

                                                                 กลุ่มที่2    Children with Learning Disabilities L.D.

                                                                กลุ่มที่3    Children with Attention Deficit and  Hyperactivity Disordersซึ่งพึงนำเสนอได้เพียง 3 กลุ่มเท่านั้น ซึ่งทั้งหมดมี 5 กลุ่ม

ความรู้ที่ได้รับ        

ขอนำเสนอในรูปแบบบรรยายเเละผังความรู้ด้วยโปรเเกรมMind  Mapper 2008                                                      

  Cerebral Palsy C.P

              โรค Cerebral Palsy (ซีรีบรัล พลัลซี หรือ ซีพี) หรือ โรคสมองพิการ เกิดจากสมองส่วนที่ใช้ควบคุมกล้ามเนื้อส่วนใดส่วนหนึ่งบกพร่อง หรือสูญเสียไป ในทางการแพทย์ จัดเด็กพิการ CP เป็นภาวะพิการทางสมองชนิดหนึ่ง  ซึ่งจะทำให้ผู้เป็น โรค Cerebral Palsy มีปัญหาในการเคลื่อนไหว  
 แบ่งสาเหตุการเกิดได้ 3 ระยะ คือ
1. ระหว่างตั้งครรภ์    
2. ระยะระหว่าคลอด
3. ระยะหลังคลอด  
อาการ
 พ่อแม่พบความผิดปกติก่อนอายุ 1 ปี สังเกตได้จากเด็กมีท่านอนผิดปกติจากกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือเกร็ง เด็กอายุมากกว่า 5 เดือน กำมือมากกว่าแบมือ หรือในเด็กที่มีอายุมากกว่า 2 ปี ยังไม่สามารถเดินได้ เป็นต้น จำเป็นต้องพาเด็กเข้ารับการตรวจรักษาทันทีเมื่อสังเกตพบความผิดปกติ เเบ่งอาการเป็น 3 กลุ่ม
                                                          1.กลุ่มแข็งเกร็ง(สปาสติก : spastic)
เป็นชนิดที่พบมากที่สุด กล้ามเนื้อจะมีความตึงมากผิดปกติ ทำให้มีอาการเกร็งร่วมกับมีลักษณะท่าทางที่ผิดปกติของร่างกายให้เห็นได้หลายแบบ
                                                       2.กลุ่มที่มีการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเอง(อะธีตอยด์ : athetoid ; อะแทกเซีย : ataxia)
                                                         3.กลุ่มอาการผสมกัน(mixed type)

พบมากโดยเฉพาะกลุ่มแข็งเกร็ง เป็นปัญหาและความผิดปกติที่เกิดร่วมกับเด็กสมองพิการ


การดูแล/รักษา
การรักษาทางกายภาพบำบัด
การรักษาทางกิจกรรมบำบัด
การรักษาด้วยยา
การรักษาด้วยการผ่าตัด
การใช้เครื่องมือและอุปกรณ์เสริมร่วมกับการรักษา


Children with Learning Disabilities L.D


Children with Attention Deficit and  Hyperactivity Disorders

สมาธิสั้น (อังกฤษAttention Deficit Hyperactivity Disorders (ADHD)) เป็นความผิดปกติด้านพฤติกรรม เกิดจากการทำงานที่ไม่เหมาะสมของสมอง โดยเฉพาะสมองส่วนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสมาธิ ทำให้เกิดการทำงานที่ไม่สัมพันธ์กันกับระบบสั่งงานอื่นๆ ผู้ที่มีภาวะสมาธิสั้นคือผู้ที่มีความบกพร่องในเรื่องสมาธิ และการควบคุมการกระทำของตนเองในการเคลื่อนไหวต่างๆ ซึ่งอาการนี้อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์
สาเหตุ
แท้จริงของภาวะสมาธิสั้นนั้นยังไม่สามารถสรุปได้ชัดเจน แต่สันนิษฐานว่าอาจเป็นผลมาจากความไม่สมดุลของสารเคมีในสมอง อีกสาเหตุหนึ่งที่เป็นไปได้ก็คือพันธุกรรมที่มีผลต่อสมอง แม้ว่าจะยังไม่มีรายละเอียดชัดเจนว่าภาวะสมาธิสั้นมีการถ่ายทอดทางพันธุกรรมอย่างไรก็ตาม


ลักษณะอาการ ในเด็กเล็กวัย 3 - 5 ขวบไม่อยู่นิ่ง เคลื่อนไหวตลอดเวลา แม้ขณะรับประ
ทานอาหาร เช่น นั่งรับประทานอาหารได้เพียงคำเดียวก็ลุกขึ้นวิ่ง มักพูดแทรกและขัดจังหวะคนอื่น เป็นคนอดทนรอไม่ได้ เช่นเวลาเข้าแถว เวลาเล่นของเล่น หรือเกมที่ต้องผลัดกันเล่น เล่นของเล่นอย่างใดอย่างหนึ่งได้ไม่นาน ไม่สามารถทำตามคำสั่งง่าย ๆ ได้ ทั้งที่มีความเข้าใจ และสื่อสารได้ปกติ เล่นเสียงดังมากกว่าเด็กคนอื่นไม่ชอบแบ่งปัน ชอบแย่งของจากคนอื่น โดยไม่เข้าใจความรู้สึกของคนที่ถูกแย่ง ดูเหมือนกับมีพลังงานมากมาย ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยลักษณะอาการ ในเด็กอายุ 6 ปี ขึ้นไปจะพบอาการได้ชัดกว่าในเด็กเล็ก มีอาการสำคัญ 3 กลุ่มอาการดังนี้1. อาการไม่มีสมาธิ (Inattention)
  • มีความสะเพร่า เลิ่นเล่อ ผิดพลาดสิ่งเดิม ๆ ซ้ำ ๆ อยู่เสมอ
  • เหม่อลอย บางครั้งอาจนั่งนิ่งๆ เป็นระยะเวลานานๆ จึงมักทำงานไม่เสร็จ หรือทำงานช้า แต่บางครั้งหากเป็นสิ่งที่สนใจมาก ๆ เช่นวิดีโอเกมหรือรายการโทรทัศน์ ก็อาจตั้งใจดูเป็นเวลาหลายชั่วโมงต่อเนื่องได้
  • ไม่ฟังเวลาผู้ใหญ่พูดด้วยหรือสอน มักจำไม่ได้ ลืมง่ายมากกว่าเด็กทั่วไป
  • มักทำของหาย เช่น ของเล่น การบ้าน ดินสอ หนังสือ ยางลบ ฯลฯ
  • วอกแวกได้ง่ายมากแม้แต่สิ่งเร้าเล็กๆ น้อยที่ผ่านทางตาหรือหูก็สามารถทำให้เสียสมาธิได้
2. อาการอยู่ไม่สุข (Hyperactivity)
  • ชอบเดินไปมาในห้อง หรือออกนอกห้อง ถ้าไม่เดินก็จะนั่งไม่อยู่นิ่ง อยู่ไม่เป็นสุข ลุกลี้ลุกลน หยิบโน่น ฉวยนี่ เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
  • ซนมากกว่าเด็กทั่วๆไป ดูเหมือนมีพลังงานอยู่ตลอดเวลา ชอบวิ่งเล่นหรือปีนป่ายในสถานที่ที่ไม่สมควร ไม่หวาดกลัวต่ออันตรายที่จะเกิดขึ้น
  • มักลืมตัวเล่นเสียงดัง
  • ไม่มีระเบียบในการทำสิ่งต่างๆ มักวุ่นวาย ยุ่งเหยิงตลอดเวลา
3. ขาดความยับยั้งชั่งใจ อดทนรออะไรไม่ได้ (Impulsive)
  • มักพูดมาก พูดแทรก
  • รอคอยไม่เป็น มักแสดงออกในลักษณะรีบเร่ง
  • หุนหันพลันแล่นทำสิ่งต่างๆ อย่างรวดเร็วโดยไม่ยั้งคิด
เด็กบางคนอาจมีอาการให้เห็นครบ3 กลุ่ม แต่บางคนอาจมีลักษณะใดลักษณะหนึ่งก็ได้ เช่นไม่ซนมาก ทนรอได้ไม่มีสมาธิ เหม่ลอย วอกแวกง่าย ซึ่งมีผลต่อการเรียนทั้งสิ้น
เด็กบางคนอาจแสดงอาการตั้งแต่วัยก่อนอนุบาลหรือวัยอนุบาล แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเห็นพฤติกรรมได้เด่นชัดเมื่ออยู่ชั้นประถมขึ้นไป ทั้งนี้หากมีพฤติกรรมดังกล่าวซึ่งมีโอกาสได้ว่าเด็กจะมีภาวะสมาธิสั้น ก็ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญต่อไป


องค์ความรู้ใหม่          
  • การนำเสนองานในครั้งนี้ทำให้ทราบว่าสิ่งที่จะทำให้งานของเรามีประสิทธิภาพนั้นขึ้นอยู่กับการพูดคุยกัน ความร่วมมือ การปรึกษาหารือกันภายในกลุ่ม
  •  เเต่ก่อนเคยคิดว่าเด็กอยู่ไม่นิ่งก็เป็นเด็กสมาธิสั้นเเล้ว เเต่ในความเป็นจริง อาการที่จะบ่งบอกของเด็กสมาธินั้นมีอยู่หลายอย่าง ก็ไม่ควรที่จะตีความเด็กไปในเด็กประเภทนั้น                                         

การนำไปประยุกต์ใช้

  • ทำให้เห็นรูปแบบการนำเสนอในรูปแบบต่างๆที่หลากหลายที่เพื่อนนำเสนอ เราสามารถนำมาบูรณาการกับรายวิชาอื่นๆ
  • สามารถนำไปบูรณาการความรู้ไปสู่วิชาการจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย


              

1 ความคิดเห็น: