วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

การเข้าเรียนครั้งที่ 3


วันที่ 19 พฤศจิกายน 2556
เวลาเรียน 11.30น.-14.00น.

บรรยากาศในห้องเรียน                                  
                                                        วันนี้ในห้องเราก้ยังต้องเรียนที่เกี่ยวกับเนื้อหาไปก่อน เพราะเรามีเนื้อหาที่ต้องเรียนค่อนข้างที่จะเยอะ เราต้องพยายามตั้งใจฟังอาจารย์อธิบายให้มาก ทำความเข้าใจกับเนื้อหาที่จดมา อย่สนใจเพื่อที่เขาเสีงดัง เหตุที่เขาเสียงดัง เขาอาจจะเข้าใจในสิ่งที่เรียนไปเเล้วก็ได้เลยเลือกที่จะไม่สนใจทั้งการจด เเละการฟังอาจารย์
                                                      หากจดอย่างเดี่ยวเราก็พวงเเต่การจด เเต่ถ้ามาฟังที่อาจารย์ยกตัวอย่าง Caseต่างๆ เเล้วจะเข้าใจมากยิ่งขึ้น
                                       
การเรียนการสอน 
                                          วันนี้เราก็เรียนประเภทของเด็กที่มีความต้องการพิเศษเช่นเคยเพราะว่ายังไม่ครบเลย เรียนโดยโปรเเกรมนำเสนอเพาเวอร์พอย พร้อมการอธิบายของอาจารย์ การสนทนานักศึกษา การตอบคำถาม การโต้ตอบกับอาจารย์
                            
ความรู้ที่ได้รับ           
 เด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกาย คือ 
  • อวัยวะไม่สมส่วน 
  • ส่วนหนึ่งหายไป
  • ระบบประสาท
  • การเคลื่อนไหว                                         

 จำเเนกได้เป็น 6 ประเภท
1.  Cerebral Palsy CP เป็นอัมพาตเนื่องจากสมองพิการหรือเป็นผลมาจากที่สมองกำลังพัฒนาอยู่ถูกทำลายก่อนคลอด ระหว่าง หรือหลัง
อาการ  - อัมพาต เกร็งของเเขน ขาหรือครึ่งซีก spastic
             - ลีลาการเคลื่อนไหวผิดปกติ athetoid
             - อัมพาตตึงเเข็ง rigid
             - อัมพาตเเบบผสม mixed
2.   กล้ามเนื้ออ่อนเเรง Muscular pistrophy 
เกิดจากเส้นประสาทสมองที่ควบคุมกล้ามเนื้อส่วนนั้นเสื่อม
อาการ - เดิน นั่งไม่ได้ นอนอยู่กับที่
          - มีความพิการซ้อนระยะหลัง คือ ความจำเเย่ลง สติปัญญาเสื่อม
3.  โรคทางกระดูกกล้ามเนื้อ 

เป็นมาจากกำเนิด เช่นเท้ากระปุก
อาการ - ระบบกระดูกกล้ามเนื้อพิการด้วยโรคติดเชื้อ
            - กระดูกหัก ข้อเคลื่อน ข้ออักเสบ
4. โปลิโอ Poliomyelitis
อาการ - กล้ามเนื้อลีบ เล็กไมีมีผลกระทบต่อสติปัญญา
            - เดินไม่ได้ อาจเดินได้หากมีอุปกรณ์ช่วยเดิน
5.  เเขนขาด้วนเเต่กำเนิด Limb Deficiency
6. โรคกระดูกอ่อน Osteogenesis Imperfeta


 เด็กที่มีความบกพร่องทางสุขภาพ คือ 
1. โรคลมชัก Epilwpsy เป็นลักษณะอาการที่เกิดเนื่องมาจากความผิดปกติของระบบสมอง
     - ลมบ้าหมู Grandmal เกิดอาการซักจะทำให้หมดสติ เเละหมดความรู้สึกในขณะชักกล้ามเนื้อเกร็งหรือเเขนขากระตุก กัดฟัน กัดลิ้น
     - การชักในช่วงเวลาสั้นๆ Petitmal เป็นอาการชักระยะสั้นๆ5-10 นาที    เด็กจะนั่งเขย่าตัวหรือตัวสั่นเล็กน้อย
      - การชักแบบรุนเเรง เกิดอาการชักเด็กจะเสียงดัง หมดความรู้สึก ล้มลง เกิดขึ้นราว 2-5 นาที จากนั้นก็จะหายเเละนอยหลับไปชั่วครู่
       - อาการชักแบบ Partial Compex เกิดอาการเป็นระยะ กัดริมฝีปากไม่รู้สึกตัว เดินไปมา บางคนอาจเกิดความโกรธหรือโมโห หลังชักอาจจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้และต้องการนอนพัก
      - อาการชักไม่รู้ตัว เป็นอาการที่เกิดขึ้นในระยะสั้น เด็กไม่รู้ตัว เช่น ร้องเพลงเสียงดัง ดึงเสือ้ผ้า เดินเหม่อลอย เเต่ไม่มีอาการชัก
      - โรคต่างๆที่เกิดขึ้น ระบบทางเดินหายใจ  เบาหวาน  อักเสบรูมาตอย  ศีรษะโต  หัวใจ  มะเร็ง เลือดไหลไม่หยุด 
ลักษณะของเด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกายเเละสุขภาพ


เด็กที่มีความบกพร่องทางการพูดเเละภาษา
         เด็กกลุ่มนี้พูดไม่ชัด ออกเสียงผิดเพี้ยน อวัยวะที่ออกเสียงไม่เป็นไปตามลำดับขั้นตอน การใช้อวัยวะในการพูดไม่เป็นไปตามตั้งใจ มีอากัปกิริยาที่ผิดปกติขณะพูด
1. ความผิดปกติด้านการออกเสียง
1.1 ออกเสียงผิดเพี้ยนไปจากมาตรฐานของภาษาเดิม
1.2 เพิ่มหน่วยเสียงในคำโดยไม่จำเป็น
1.3 เอาเสียงหนึ่งแทนเสียงหนึ่่ง
2. ผิดปกติด้านจังหวะเวลาของการพูด เช่น พูดรัว พูดติดอ่าง
3. ผิดปกติด้านเสียง ระดับเสียง ความดัน คุณภาพ
4. ความผิดปกติทางการพูดเเละภาษาอันเนื่องมาจากพยาธิสภาพที่สมอง โดยทั่วไปเรียกว่า Dysphasia หรือ Aphasia
4.1 Motor Aphasia ------------> เข้าใจคำถามหรือคำสั่งเเต่พูดไม่ได้ออกเสียงลำบาก พูดช้า พูดไม่ถูกไวยากรณ์
4.2 Wernioke's Aphasia ------------> ไม่เข้าใจคำถามได้ยินเเต่ไม่เข้าใจ ออกเสียงไม่ติดขัด แต่มักใช้คำผิดๆหรือใช้คำอื่นที่ไม่มีความหมายมาแทน
4.3 Conduction Aphasia ------------> เด็กที่ออกเสียงได้ไม่ติดขัด เข้าใจคำถามดีแต่พูดตามหรือบอกชื่อสิ่งของ มักเกิดร่วมไปกับอัมพาตของร่างกายซีกขวา
4.4 Nominal Aphasia ------------> เด็กที่ออกเสียงได้ เข้าใจคำถามก็พูดตามได้ แต่บอกชื่อวัตถุไม่ได้ เพราะลืมชื่อ
4.5 Global Aphasia ------------> ไม่เข้าใจทุกภาษา พูดไม่ได้เลย
4.6 Sensory Agraphia ------------> เขียนเองไม่ได้ เขียนตอบคำถามหรือเขียนชื่อวัตถุก็ไม่ได้ มักเกิดร่วมกับ Gerstmann's syndrome
4.7 Motor Agraphia ------------> เด็กที่ลอกตัวเขียนหรือตัวพิมพ์ไม่ได้ เขียนตามคำบอกไม่ได้
4.8 Cortical Alexia ------------> อ่านไม่ออกเพราะไม่เข้าใจภาษา
4.9 Motor Alexia  ------------> เด็กที่เห็นตัวเขียน ตัวพิมพ์ เข้าใจความหมายเเต่อ่านไม่ได้
4.10 Gerstmann's Syndrome  ------------> ไม่รู้ซื่อนิ้ว ไม่รู้ซ้าย ขวา คำนวณไม่ได้ เขียนไม่ได้ อ่านไม่ออก(หนักมาก)
4.11 Visual Agnosia   ------------> เด็กที่มองเห็นวัตถุเเต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร บางทีบอกชื่อนิ้วไม่ได้
4.12 Auditory Agnosia   ------------> เด็กที่ไม่มีปัญหาทางการได้ยินเเต่แปลความหมายของคำเเละประโยชน์ไม่ได้ยิน

ลักษณะของเด็กที่มีความบกพร่องทางพูดเเละภาษา

การนำไปประยุกต์ใช้  
- เมื่อเรามีความรู้ในเรื่องประเภทของเด็กพิเศษเเต่ละประเภท ทำให้เราสามารถเเยก แยะได้ว่าถ้าเด็กมีลักษณะเเบบนี้จะเป็นเด็กที่มีความต้องการพิเศษประเภทไหน 
- ทำให้ทราบว่าเมื่อเด็กยังมีอายุน้อยอยู่ หากเขามีลักษณะที่ผิดปกติไป เราสามารถที่จะทำนายได้ว่าอาจจะเป็นเด้กที่ทีความต้องการพิเศษได้          



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น